วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

ปรับสมดุล.....จัดกระดูกไทย: เรื่องเล่าชาวสุพรรณบุรี เกี่ยวกับ นวดปรับสมดุลโครง...

ปรับสมดุล.....จัดกระดูกไทย: เรื่องเล่าชาวสุพรรณบุรี เกี่ยวกับ นวดปรับสมดุลโครง...: โรงเรียนสืบสานภูมิปัญญาไทย  การนวดสัมผัสปรับสมดุลโครงสร้างร่างกาย(ปรับจัดกระดูกไทย)  จังหวัดสุพรรณบุรี  อาจารย์กณิษฐา จอมพงษ์รื่น  มีปัญหาเ...

เรื่องเล่าชาวสุพรรณบุรี เกี่ยวกับ นวดปรับสมดุลโครงสร้างร่างกาย (จัดกระดูกไทย)

โรงเรียนสืบสานภูมิปัญญาไทย  การนวดสัมผัสปรับสมดุลโครงสร้างร่างกาย(ปรับจัดกระดูกไทย)  จังหวัดสุพรรณบุรี

 อาจารย์กณิษฐา จอมพงษ์รื่น  มีปัญหาเรื่องสุขภาพโครงสร้างร่างกายปรึกษาฟรี 

โทร 080-6334663

            การนวดสัมผัสปรับสมดุลโครงสร้างร่างกาย  หรือการนวดปรับจัดกระดูกไทย  เป็นศาสตร์และศิลป์ที่มีมาแต่โบราณเดิมทีเรียกว่าการผลักกระดูก  เป็นการสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นได้ถ่ายทอดหลายชั่วอายุคนมาแล้ว จนมาถึงท่านอาจารย์ประสิทธิ์ มณีจิระปราการ และท่านได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ของท่านให้แก่ท่านอาจารย์ประสพสุข อิงคะวะระ  จากนั้นท่านอาจารย์ประสพสุข อิงคะวะระ ได้นำมาเข้าหลักสูตรการเรียนรู้ทางด้านวิชาชีพและได้เปิดเป็นโรงเรียนสืบสานภูมิปัญญาไทยเพื่อถ่ายทอดและสืบสานภูมิปัญญาพื้นบ้านไทยมิให้สูญหาย และการนวดสัมผัสปรับสมดุลโครงสร้างร่างกาย  หรือการนวดปรับจัดกระดูกไทย ยังมีการนำไปสอนให้กับแพทย์ทางเลือก และการศึกษานอกโรงเรียนหนองแขมอีกด้วย  ปัจจุบันทางโรงเรียนสืบสานภูมิปัญญาไทย มีวิทยากรที่ชำนาญการแต่ละด้านเฉพาะทางจำนวน 15 ท่าน และจะผลิตเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมากเพื่อรองรับการสอนทั่วประเทศ ขณะนี้มีผู้ที่จบหลักสูตร การนวดสัมผัสปรับสมดุลโครงสร้างร่างกาย(ปรับจัดกระดูกไทย) แล้วเกือบทุกจังหวัด เช่น กรุงเทพ นนทบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ลพบุรี สระบุรี พิษณุโลก เป็นต้น และยังมีในต่างประเทศอีกด้วย
 ศาสตร์การนวดสัมผัสปรับสมดุลโครงสร้างร่างกาย(ปรับจัดกระดูกไทย)นี้ ไม่ใช่เป็นการรักษาให้หายจากอาการที่เป็นอยู่ แต่เป็นการปรับสมดุลร่างกายให้อยู่ในสภาพปกติ หลังจากนั้นอวัยวะต่างๆ ในร่างกายจะรักษาตัวเองตามธรรมชาติ  การนวดศาสตร์นี้เป็น การนวดโดยใช้การสัมผัสให้ถึงลักษณะอาการ ซึ่งดูจากลักษณะโครงสร้างร่างกาย ซึ่งสันนิษฐานได้ตั้งแต่เริ่มเดินเขามารับการนวด สัมผัสอุณหภูมิของร่างกายโดยรวม เพื่อให้รู้ถึงลักษณะอาการความเจ็บป่วยเบื้องต้น  ตรวจวัดความดันของโลหิตว่าเป็น ความดันโลหิตสูงหรือต่ำตามอุณหภูมิของร่างกาย โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องวัดความดัน ตรวจความสมดุลของร่างกายเพราะร่างกายคนเรามีทั้งสองข้างซ้ายและขวา ถ้าเกิดอาการผิดปกติจะสังเกตได้จากโครงสร้างของร่างกาย เช่น การเดินที่ไม่เสมอกัน เท้าทั้งสองข้างแบะออก เดินไหล่เอียงไปข้างดข้างหนึ่ง กระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็นโดยรวมต่างๆ ไม่อยู่ในสภาพปกติ ฯลฯ ลักษณะอาการต่างๆ ทำให้ส่งผลต่อทุกระบบของร่างกาย เช่น ระบบไหลเวียน โลหิต ระบบอวัยวะ และระบบ อัตโนมัติ ต่างๆ อาจเกิดอาการผิดปกติได้
     การนวดสัมผัสบำบัดปรับจัดกระดูกไทย มีหลักการนวดที่ทำให้ร่างกายไม่เกิดการบีบ เบียด กด ทับ คือ เมื่อ กล้ามเนื้อบีบตัวจะมีอาการเกร็ง บีบรัดเส้นประสาท เส้นเลือด จะรู้สึกไม่สบายตัว ปวดตึงบริเวณที่กล้ามเนื้อบีบรัด เส้นเอ็นเบียดเมื่อขยับตัวจะรู้สึกเจ็บแปล็บๆ เมื่อมีการเบียดเส้นประสาท  กระดูกกดเส้นประสาทจะมีอาการปวด แต่ถ้ากระดูกหรือเส้นเอ็นทับเส้นประสาท จะมีอารการชาตามอวัยวะต่างๆ เมื่อคลายกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นแล้วจึงปรับกระดูก เพราะร่างกายของคนมีตั้งแต่ ผิวหนัง กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และกระดูก ซึ่งทำหน้าที่สัมพันธ์กันจึงต้องนวดปรับไปตามลำดับขั้นของร่างกาย 
            การนวดสัมผัสปรับสมดุลโครงสร้างร่างกายหรืืิอการนวดเพื่อปรับจัดกระดูก สามารถป้องกันและช่วยบรรเทาอาการที่เกิดจาก กล้ามเนื้อเส้นเอ็น-กระดูก ของอาการปวดศรีษะ ปวดไหล่ ปวดสะบักปวดข้อศอก ปวดข้อมือ ปวดข้อนิ้ว ปวดหลัง ปวดเข่า ปวดข้อเท้าแพลง ปวดหลังชาลงขา กระดูกทับเส้นประสาท ยอกหลัง หายใจไม่เข้า
  
ประโยชน์การนวดสัมผัสบำบัดปรับจัดกระดูกไทย 
         ๑.  ป้องกันการเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ของร่างกายและใบหน้า
            .  ป้องกันโรคหัวใจตีบ หัวใจโต
            .  ป้องกันอาการไมเกรน ปวดหัวข้างเดียว
            .  ป้องกันโรคเท้าชา มือชา นิ้วล๊อก
            .  ป้องกันอาการหลังงูเห่า (หลังค่อม)
            .  ป้องกันการปวดหัวเข่า ขาโก่ง ขางอ แขนงอ
            .  ปรับสมดุลข้อต่างๆ ไม่ให้เกิดอาการผิดปกติ
            .  ปรับระบบเลือด และน้ำเหลืองให้เป็นปกติ
            .  ปรับอาการกระดูกทับเส้นประสาท กระดูกเคลื่อน
            ๑๐. ปรับความดันโลหิตให้เป็นปกติ
 
 
                   
วัตถุประสงค์การนวดสัมผัสบำบัดปรับจัดกระดูกไทย
 
1.  เพื่อต่อยอดสืบสานภูมิปัญญาไทยที่มีมาแต่โบราณ
2.  เพื่อปรับจัดกระดูกที่เคลื่อนให้เข้าที่โดยที่ไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด
3.  เพื่อปรับให้ร่างกายมีความสมดุลทั้งซ้ายและขวาทั้งร่างกาย
4.  เพื่อปรับกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อต่อกระดูกให้อยู่ในสภาพปกติ
5.  เพื่อปรับการทำงานของอวัยวะต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานเป็นปกติ    
      6.  เพื่อป้องกันการเกิดอาการเจ็บป่วยของร่างกายในอนาคต